ต้นไม้ห้ามปลูกในบ้าน ต้นไม้มีพิษ ไม่ควรปลูก ไม่มงคล อย่าปลูกไว้ในบ้าน ตอนที่ 2 

ต้นไม้ห้ามปลูกในบ้าน ต้นไม้มีพิษ ไม่ควรปลูก ไม่มงคล อย่าปลูกไว้ในบ้าน ตอนที่ 2 

มาต่อกันที่ต้นไม้อีก 3 ชนิดที่ห้ามปลูกในบ้าน เพราะเป็นต้นไม้มีพิษ ในบทความตอนที่ 2 กันเลยนะคะ

อันดับที่ 3 ต้นตำแย เป็นพืชล้มลุกขนาดเล็กไม่ผลัดใบ ตำต้นมีลักษณะตั้งตรง ทุกส่วนของต้นมีขนพิษ ไม่ควรจับต้องเล่นเป็นอันขาด เพราะส่วนที่ทำให้เกิดอาการคันอย่างรุนแรงคือ ขนทุกส่วนบนต้นของมัน ไม่ว่าจะเป็นขนที่ใบ ขนที่ต้น หรือที่ช่อดอกก็ไม่เว้น โดยใบของต้นตำแยจะเป็นรูปหัวใจ ปลายใบแหลม โดนใบป้าน หรือหยักเว้า ขอบใบหยักเป็นฟันเลื่อย ดอกของตำแยจะออกเป็นช่อที่ปลายกิ่งห้อย มีดอกย่อยจำนวนมากเป็นสีเขียว และมีสีม่วงเมื่อดอกบาน

ต้นตำแย มีชื่อเรียกตามแต่ละท้องถิ่นที่แตกต่างกัน เช่น ต้นช้างร้อง ตำแยตัวเมีย ตะลังตังไก่ หากใครเผลอไปสัมผัสขนพิษจากทุกส่วนของต้นจะทำให้เกิดอาการคันมาก ผิวหนังจะปวดแสบปวดร้อน เป็นผื่นบวมแดง และถ้าถูกบริเวณผิวหนังที่อ่อนนุ่มก็จะมีอาการรุนแรงมากขึ้น

วิธีแก้พิษเบื้องต้น ให้เอาขนจากผิวหนังออกให้หมดก่อน โดยใช้ข้าวเหนียวมากลิ้งหลายๆครั้งบริเวณที่ถูกขนสัมผัสออก เหมือนกับการแก้อาการขนพิษของหมามุ่ย ซึ่งอาจใช้เทียนลนไฟให้อ่อนนุ่มแล้วเอามากลึ้งบริเวณที่ถูกขนก็ได้เช่นนั้น จากนั้นทาโลชั่นคารามายและรับประทานยาแก้แพ้  แต่ถ้าอาการไม่ดีขึ้นให้รีบไปพบแพทย์โดยด่วน

อันดับที่ 2 ต้นสามแก้ว หรือเรียกในชื่ออื่นว่า ต้นช้างร้อง ซึ่งชื่อไปซ้ำกับต้นตำแย แต่หน้าตาของมันจะไม่เหมือนกัน โดยใบของเค้าจะมีลักษณะที่ดูเป็นมิตรกว่าต้นช้างร้องที่เป็นต้นตำแย แต่พิษของต้นสามแก้วก็ไม่ได้น้อยไปกว่าต้นตำแยเลย 

ต้นสามแก้วเป็นต้นไม้ยืนต้น มีตั้งแต่ต้นขนาดเล็กจนสูงท่วมหัว ใบจะใหญ่เป็นรูปหอกและมีขนเล็กน้อย ก้านใบมีสีม่วง ขอบใบเรียบ สีของใบเขียวสดและเงาเป็นมัน บริเวณใบและช่อดอกจะมีขนเช่นเดียวกัน เมื่อไปสัมผัสโดนจะทำให้เกิดอาการคัน ผิวหนังไหม้เกรียน แดง เป็นผื่นและปวดมาก 

ต้นสามแก้วมักจะพบในแถบป่าดินชื้น หรือพื้นที่ที่ชุ่มน้ำ ริมน้ำ หรือบนเนินเขา และพื้นดินทั่วไป วิธีแก้พิษ ใช้ข้าวเหนียวร้อนโปะตามบริเวณที่มีอาการคัน หลังจากนั้นทิ้งไว้ 2-3 นาที เอาข้าวเหนียวแก แล้วเอาน้ำตาเทียนหยดลงบริเวณที่โดนพิษแล้วทิ้งไว้สักพัก อาการก็จะดีขึ้น

อันดับที่ 1 ต้นช้างร้อง ถือเป็นว่านชนิดหนึ่งที่คนรู้จักกันน้อยมาก และถือเป็นว่านที่สุดยอดอันตราย เป็นว่านที่คนมักจะปิดบังกัน คนที่รู้จักก็มักจะปิดบังข้อมูล เพราะต้องการให้ว่านนี้เป็นความลับ เพื่อใช้เป็นการป้องกันอาณาบริเวณบ้าน หรือสวน เพื่อป้องกันทรัพย์สินกันขโมย จึงนิยมปลูกตามรั้วบ้าน เพื่อป้องกันรักษาบ้านและสวน หรือในถานที่ใดๆที่หวงห้าม และสำหรับผู้ที่ชอบเดินป่ามักจะคุ้นเคยกับว่านชนิดนี้ เพราะถ้าหากไปสัมผัสว่านชนิดนี้ที่บริเวณส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายแล้ว เบื้องต้นจะปรากฏเป็นผื่นคัน ต่อมาจะกลายเป็นแผนกินลึกลงไปถึงกระดูก ถ้ารักษาไม่ถูกจะลุกลามกลายเป็นแผลแหวะหวะ และอาจทำให้เสียชีวิตในที่สุด

ต้นช้างร้องจะมีลักษณะใบเหมือนใบเมเปิ้ล แต่มีขนและหนามอยู่ใต้ใบ เป็นไม้พุ่มที่มีพิษที่ใบ ขนที่อยู่ในส่วนต่างๆของต้น คือขนพิษทั้งสิ้น ขนพิษของมันจะทำให้ผิวหนังไหม้เกรียมและมีอาการปวดอย่างมาก ขนพิษของมันรุนรงมากกว่า หมามุ่ยและตำแยหลายเท่า อาการคันจะคันไปถึงกระดูก ยิ่งเกายิ่งค้น ต่อมาจะเกิดอาการอักเสบเป็นแผลลุกลาม ถ้าใครโดนพิษแล้วรักษาไม่ถูกอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้

สำหรับวิธีรักษา ท่านต้องหาว่านแก้พิษ คือพญาว่าน หรือจ่าว่าน หรือว่านขอทองแก้ แล้วนำหัวว่านดังกล่าวมาฝนกับน้ำซาวข้าวทาแก้พิษ หรือโขลกเอาหัวพญาว่าน ผสมน้ำเหล้าโรงแล้วดื่ม จะสามารถทำลายพิษของว่านช้างร้องได้ ถ้าใครคิดอยากจะปลูก ควรปลูกว่านแก้พิษเผื่อเอาไว้ด้วย รวมถึงต้องบอกให้คนในครอบครัวได้รู้และระวังถึงพิษอันร้ายกาจนี้ด้วย

และทั้งหมดนี่คือสาระดีๆที่เราเอามาฝากคุณในบความเกี่ยวกับต้นไม้ พบกันใหม่ในบทความครั้งหน้าค่ะ

ต้นไม้แต่งบ้าน ต้นไม้แต่งคอนโด ต้นไม้ฟอกอากาศ