รวมว่านที่นักเลงและนักมวยสมัยก่อนกินเพื่อความคงกระพัน ตอนที่ 1

ครั้งนี้เราจะมาแนะนำ ว่านโบราณที่นักเลงและนักมวยในสมัยโบราณนิยมกินกัน เพราะเชื่อว่าจะช่วยให้มีความคงกระพัน มีว่านอะไรกันบ้างไปติดตามดุกันเลยค่ะ

1.ว่านอ้ายใบ้ ซึ่งปัจจุบันรู้จักกันในชื่อ สาวน้อยประแป้ง ในสมัยก่อนนักเลงและนักมวยเชื่อกันว่า ว่านชนิดนี้จะช่วยหึคงกระพัน ชกต่อยแล้วไม่เกิดแผลแตก โดยจะนำว่ายส่วนลำต้นมาห่อด้วยมะขามเปียก แล้วกลืนลงท้องไป จะทำให้มีอาการชาตามผิวหน้า แขน ขาและคอบวม ลิ้นคับปาก จึงเป็นที่มาของชื่อ “ว่านอ้ายใบ้” เพราะจะพูดไม่ได้ เมื่อถูกมีดฟันจะเกิดรอยช้ำหรือเป็นรอยแดงๆเท่านั้น

อีกความเชื่อก็คือ เป็นว่านเสี่ยงทายโชคลาภ มีเสน่ห์เมตตามหานิยม หากปลูกเอาไว้หน้าบ้านจะช่วยให้ค้าขายดี

อ้ายใบ หรือสาวน้อยปะแป้งปัจจุบันนิยมปลูกเป็นไม้ประดับ ไม่นิยมนำมากินกันแล้ว เพราะว่าพิษของสาวน้อยประแป้งเมื่อกินเข้าไป จะรู้สึกเจ็บปวด ร้อนที่ลิ้น และเยื่อบุช่องปาก ลิ้นและคอจะบวมพองเป็นตุ่มใส มีปัญหาหารเปล่งเสียง ลิ้นบวมโตคับปาก การสัมผัสน้ำยางทำให้เกิดอาการบวมแดง แม้ว่าอาการพิษที่เกิดจากสาวน้อยปะแป้ง จะพบได้ไม่บ่อยนักแต่ก็มีโอกาส กินพืชต้นนี้เข้าไปโดยรู้เท่าไม่ถึงกาล เพราะฉะนั้นบ้านไหนที่ปลูกเอาไว้ต้องระวังสัตว์เลี้ยงและเด็กอย่าได้เผลอกินเข้าไปนะคะ

2.ว่านคางคก หรือชื่ออื่นที่เรียกกันว่า ว่านมหาอุต ว่านมโนรา บางทีก็เรียกเป็นอุตพิด

ว่านคางคกเป็นไม้ล้มลุก หัวว่านมีลักษณะผิวขรุขระเหมือนหนังคางคก ลักษณะกลม มีขนาดเล็ก ดูราวกับคางคกหมอบ ก้านของใบมีสีเขียว กลมเรียว บริเวณปลายด้านบนเป็นร่อง ก้านใบยาว แทงออกมาจากหัวใต้ดิน ใบเป็นรูปหัวใจ ปลายใบแหลม ปลีดอกออกเป็นสีแดง

ตามความเชื่อของคนโบราณ ว่านนี้จะช่วยให้อยู่ยงคงกระพัน เหมาะกับนักเลง นักมวย โดยให้นำหัวว่านมาเคี้ยว 1 หัว สักพักผิวหนังจะเริ่มคัน ซู่ซ่า ชาหนึบ ของมีคมฟันแทงไม่เข้า โดยก่อนจะกินหัวว่า ต้องเสกด้วยคาถา นะโมพุทธายะ 3 จบก่อน กินกับเหล้าหรือน้ำธรรมดาก็ได้ พอกินเข้าไปก็จะรู้สึกชาไปทั้งตัว และตามตัวจะคันยิบๆ แต่พอปัสสาวะออกมาก็จะหายคันไปเอง นอกจากนั้นในสมัยก่อนจะนำหัวว่านมาแกะเป็นรูปคางคก เสกด้วยคาถาแล้วนำติดตัวไปไหนมาไหนด้วย เพราะเชื่อว่าสามารถช่วยป้องกันภัยและช่วยให้อยู่ยงคงกระพัน

สรรพคุณทางสมุนไพรของว่านคางคก จะช่วยแก้โรคเรื้อน โรคผิวหนัง กลากเกลื้อน ผื่นคัน โดยเอาหัวว่าน 2-3 หัวมาโขลกพอหยาบแล้วนำไปผสมกับน้ำมันมะพร้าวไปทาบริเวณผิวหนังที่มีอาการ โดยก่อนทาต้องทำความสะอาดผิวหนังให้สะอาดก่อน ทาเช้าเย็น 7-10 วันอาการโรคผิวหนังก็จะหายไป

ติดตามอ่านตอนที่ 2 ของบทความ “รวมว่านที่นักเลงและนักมวยสมัยก่อนกินเพื่อความคงกระพัน” กันต่อนะคะ ว่ายังมีว่านอะไรอีกบ้างในความเชื่อของนักเลงและนักมวย

ต้นไม้แต่งบ้าน ต้นไม้แต่งคอนโด ต้นไม้ฟอกอากาศ