9 ต้นไม้พุ่ม ดอกสวยสะดุดตา ตอนที่ 2
ใบบทความตอนที่ 1 รู้จักไม้พุ่มที่มีดอกสวยงามไป 4 ชนิดแล้ง มาตามดูความสวยงามของไม้พุ่มที่มีดอก อีก 5 ชนิดในบทความตอนที่ 2 กันเลยดีกว่า 1.ต้นทองอุไร เป็นไม้พุ่มที่มีความเจริญเติบโตเร็ว ดอกมีสีเหลืองสดใส ถ้าได้รับแสงแดเพียงพอจะออกดอกตลอดปี เวลาออกดอก จะออกดอกพร้อมๆกันเต็มต้น สามารถปลูกเป็นกลุ่ม หรือเป็นแนวบังสายตาได้ หรือจะปลูกแค่ต้นเดียว หรือสองต้น แต่งทรงพุ่มให้สวยๆก็โดดเด่นสวยงามสะดุดตา ขยายพันธุ์โดยการเพาะเมล็ด หรือตอนกิ่ง 2.ต้นหางนกยูงไทย ซึ่งดอกจะมีทั้งสีแดง สีชมพู สีเลือง โดยหางนกยูงไทยจะออกดอกที่ปลายยอด แต่จะมีหนาวเล็กน้อยที่บริเวณลำต้น หรือกิ่ง คนพื้นเมืองทางเหนือจะเรียกต้นหางนกยูงไทยว่าต้น ซอมพอ คนสูงอายุทางล้านนานิยมนำดอกมาทัดที่ผม หรือมวย ในเทศกาลสงกรานต์ หางนกยูงไทยเป็นไม้พุ่มอีกชนิดที่สามารถนำมาปลูกเป็นแนวเพื่อดึงสายตา หรือจะปลูกเป็นกลุ่มเพื่อให้สะดุดตาโดดเด่น หรือปลูกบนพื้นที่ที่เป็นเนินก็จะสวยงามสะดุดตามาก สามารถนำมาปลูกตกแต่งได้ทั้งที่บ้าน หรือภูมิทัศน์ในสถานที่ต่างๆได้อย่างเหมาะสมสวยงาม 3.ต้นพู่ชมพู เป็นไม้ทรงพุ่มโปร่งไม่ทึบมาก ไม่สร้างความอึดอัด สามารถมองทะลุทรงพุ่มได้ แต่ก็ช่วยบังสายตาได้ ดอกของพุ่มชมพูจะมีทั้งดอกสีชมพู สีแดง สีขาว เวลาดอกบานจะเป็นพู่ ฟูออกเป็นทรงกลมสวยงาม บ้านไหนที่ไม่เหลือพื้นดินสำหรับปลูกก็สามารถลูกในกระถางใหญ่ๆได้ หรือปลูกในท่อปูนก็ได้ 4.ต้นพุดตาน เป็นไม้พุ่มที่มีทรงพุ่มกว้าง […]
มะกรูด ยาไล่กำจัด มด แมลง จากธรรมชาติ ไร้สารเคมี
เพราะแมลงเป็นศัตรูพืชที่ทำให้ต้นไม้ที่เรารักต้องถูกทำลายความสวยงาม แลเป็นสาเหตุให้ต้นไม้ต้องตายในที่สุด บทความต้นไม้ครั้งนี้เราจึงนำเอาสูตรที่ใช้กำจัด มดแมลง ที่เป็นศัตรูพืชของต้นไม้ที่คุณรักมาฝากกัน ถ้าสนใจปกป้องต้นไม้ที่คุณรักตามไปดูสูตร และวิธีทำกันเลยค่ะ มีสักกี่คนที่จะรู้ว่า มะกรูดนอกจะนำมาประกอบอาหารได้แล้ว ผลมะกรูดยังมีน้ำมันหอมระเหย และกรดของส้ม ที่สามารถไล่แมลงศัตรูพืชได้ทุกชนิด โดยใช้เพียงแค่ผลมะกรูดกับน้ำเปล่าก็ไล่แมลงศัตรูพืชได้ทุกชนิดแล้ว ส่วนประกอบ 1.ถุงพลาสติก 2.มะกรูด 2-3 ลูก ( ใช้ได้ทั้งมะกรูดสด หรือมะกรูดที่เริ่มเหลืองแล้ว ) 3.อุปกรณ์ทุบลูกมะกรูด 4.ผ้าขาวบางสำหรับกรอง 5.น้ำยาล้างจาน ยี่ห้อใดก็ได้ ( ทำหน้าที่จับตัวแมลงและเคลือบใบพืช ทำทำให้ป้องกันศัตรูพืชอย่างได้ผล ) วิธีทำ 1.นำผลมะกรูดใส่ถุง จับปากถุงให้แน่น และใช้วัสดุที่มีน้ำหนักทุบลูกมะกรูดจนลูกมะกรูดแจกและมีน้ำมันหอมละเหยออกมาจากลูกให้มากที่สุดจากนั้นนำใส่ภาชนะ เดิมน้ำครึ่งลิตร แล้วแช่ทิ้งไว้สักพักเพื่อทำเป็นหัวเชื้อ 2.เมื่อน้ำหัวเชื้อมีน้ำมันและกรดส้มลอยตัวขึ้นมาให้นพน้ำหัวเชื้อไปกรองใส่ภาชนะที่มีฝาปิด หรือ ขวดขนาดใหญ่ที่จะใส่หัวฉีด โดยกรองผ่านผ้าขาวบาง นำเม็ดมะกรูดหรือสิ่งแปลกปลอมออก เพื่อไม่ให้ไปอุดตันหัวฉีดเวลานำไปฉีดต้นไม้ 3.เมื่อกรองหัวเสื้อสะอาดดีแล้วเติมน้ำยาล้างจาน 1 ช้อนชา ( ต่อน้ำครึ่งลิตร ) จากนั้นจึงเขย่าส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน เสร็จแล้วจึงนำไปฉีดพ่นต้นพืช โดยฉัดเป็นประจำสม่ำเสมอจะช่วยป้องกัน ไล่ศัตรูพืชได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยแมลงและศัตรูพืชไม่มารบกวนพืชของเราให้เสียหายอีกเลย ซึ่งเวลาที่เหมาะสมในหารฉีดพ่น ควรฉีดพ่นในช่วงเวลาเย็นถึงพลบค่ำ […]
ไม้มงคลออกดอก 4 ชนิด หาดูยาก ออกดอกแล้ว โชคดี มีโชคจ้า
บทความต้นไม้ครั้งนี้ เราจะพาคุณไปรู้จักไม้มงคลที่ออกดอกแล้วจะให้โชคกับผู้เป็นเจ้าของ หรือผุ้ปลูก นำมาฝากกับถึง 4 ชนิด ถ้าสนใจไปดูกันเลยค่ะว่ามีไม้มงคลชนิดไหนบ้างที่เรานำมาฝากในครั้งนี้ 1.ว่านนางคุ้ม หรือ ว่านผู้เฒ่าเฝ้าบ้าน เป็นว่านโบราณ นอกจากจะมีดอกสีขาวสวยสบายตาที่มากับฝนใหญ่ แต่ก็ไม่ได้ออกดอกทุกปี หัวต้องได้ขนาด ดอกจึงจะออก ว่านนางคุ้มเป็นว่านที่มีใบสวยงาม เป็นไม้มงคลที่มีความเชื่อว่าสามารถคุ้มตรองคนในบ้านให้ปลอดภัยจากภัยอันตรายต่างๆได้ 2.กุมารดำเรียกทรัพย์ หรือ โคตรรวย ตันไม้ชนิดนี้จะออกดอกที่สวยงาม โดดเด่นเป็นดอกสีแดง และมีไส้ข้างในเป็นสีขาวบริสุทธิ์ เจริญเติบโตได้ดีและรวดเร็วในดินก้ามปู เป็นอีกหนึ่งใบมงคลทีออกดอกสวยงามและให้โชคเมื่ออกดอก 3.ต้นเสน่ห์จันทร์โกเมน เป็นอีกต้นที่เติบโตและเจริญงอกงามได้ดีในดินใบก้ามปูหมัก ดอกของเสน่ห์จันทร์โกเมน จะมีสีแดงลักษณะเรียวเป็นช่อ และออกดอกตามก้ามใบ และเชื่อกันว่าเมื่อใดที่ออกดอกจะทำให้เจ้าของโชคดี และมีเสน่ห์ 4.เสน่ห์จันทร์ขาว มีใบทรงกลมมีลวดลายในตัว เสน่ห์จันทร์ขาวเป็นต้นไม้มงคลที่ชอบความสะอาด น้ำที่นำมารดต้องมีความสะอาด และจะออกดอกต่อเมื่อต้นมีความสมบูรณ์แข็งแรง ดอกมีสีขาวขนาดเล็ก โดยจะมีก้านดอกที่ยาวออกมา คนโบราณนิยมเก็บดอกไปแช่น้ำมันแล้วนำไปบูชา และทั้งหมดคือไม้มงคลที่จะออกดอกให้เห็นในช่วงที่มีมีฝน และ เมื่อไหร่ทั้งต้องไม้มงคลทั้ง 4 ชนิดนี้ออกดอก เจ้าของ หรือ ผู้ที่ปลูกก็จะมีโชคลาภ มีโชคดี การปลูกต้นไม้ไม่ว่าจะเป็นต้นไม้ชนิดใดก็ล้วนทำให้บ้านเรือนร่มรื่นและสดชื่น ยิ่งถ้าไห้ปลูกต้นไม้ที่เป็นมงคลแก่ชีวิตของผู้ปลูกและคนในครอบครัวแล้ว ยิ่งเป็นสิ่งที่ดียิ่งขึ้นไปอีก ดังนั้นมีโอกาสจัดสวนในบ้าน หรือไปเที่ยวตลาดต้นไม่ครั้งหน้า อย่าลืมหาซื้อต้นไม้มงคลที่ออกดอกทั้ง […]
ต้นไม้ไล่ยุง ที่ “ยุงไม่ชอบ” ปลูกไว้รอบบ้าน หมดปัญหายุงกวนใจ ตอนที่ 1
การเลือกต้นไม้ที่จะใช้ตกแต่งบ้านหรือปลูกในบริเวณบ้าน ซึ่งการเลือกก็เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องเลือกต้นไม้ที่มีประโยชน์มาปลูก ซึ่งในบทความนี้ เราได้นำต้นไม้ที่มีประโยชน์ในการไล่ยุง ซึ่งนอกจากจะสวยงามแล้ว ยังช่วยให้ปลอดภัยจากยุงได้ด้วย ส่วนจะมีต้นอะไรบ้างไปตามดูกันเลยค่ะ 1.ต้นตะไคร้หอม เป็นพืชยอดนิยมอันดับต้นๆของการปลูกเพื่อไล่ยุง เพราะกลิ่นของตะไคร้หอมสามารถไล่ยุงอย่างได้ผลชัดเจน อีกทั้งตะไคร้หอมยังเป็นพืชที่ปลูกได้ง่าย และมีความสวยงาม เนื่องจากตะไคร้หอมเป็นไม้พุ่มสีเขียวเหลือง และยังเป็นพืชสมุนไพรที่สามารถนำไปประกอบอาหารได้ด้วย เรียกได้ว่าปลูกอย่างเดียวได้ประโยชน์หลายอย่าง 2.ต้นโหระพา เป็นพืชสมุนไพรที่อยู่คู่บ้านคู่เมืองของคนไทยมาช้านาน เพราะนอกจากจะนำมาประกอบอาหารได้หลายประเภท ยังมีความสามารถในการไล่ยุงจากกลิ่นหอม กลิ่นฉุนที่เป็นกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของใบโหระพานั่นเอง และเมื่อปลูกในบริเวณบ้านก็สามารถสร้างความสวยงามให้ได้เช่นกัน 3.ต้นเจอราเนียม เป็นไม้ดอกที่มีสีสันสวยงาม สามารถนำมาปลูกประดับสวนได้เป็นอย่างดี และคุณสมบัติพิเศษเฉพาะก็คือจะปล่อยกลิ่นหอมในเวลากลางคืน ซึ่งกลิ่นหอมนี้ยุงไม่ชอบจึงทำหน้าที่ไล่ยุงได้เป็นอย่างดี ทำให้เป็นต้นไม้อีกชนิดที่ควรนำมาปลูกไว้ในบ้าน เพราะมีทั้งความสวยงามและสามารถไล่ยุงได้ 4.ต้นแมงลัก เป็นอีกหนึ่งพืชผักสวนครัวที่หลายๆบ้านนิยมปลูกไว้เพื่อนำไปเป็นส่วนผสมในการปรุงอาหาร เป็นพืชที่มีลักษณะคล้ายใบกระเพรา และใบโหระพา แมงลักอาจไม่มีคุณสมบัติไล่ยุงไดโดยตรง แต่ถ้านำใบแมงลักมาขยี้ให้พอหยาบๆ ใส่ภาชนะ แล้วไปวางตามบริเวณต่างๆภายในบ้าน กลิ่นฉุนของมันก็จะใช้ไล่ยุงได้ผลเป็นอย่างดี 5.ต้นมะกรูด โดยน้ำมันหอมระเหยของมะกรูดสามารถนำไปใช้ไล่ยุงได้เป็นอย่างดี โดยนำลูกมะกรูดมาฝานเป็นแว่นๆ ใส่ภาชนะแล้วไปวางตามจุดที่ต้องการไล่ยุงก็สามารถไล่ยุงได้แล้ว และนอกจากจะใช้ประกอบอาหารได้แล้วยังเป็นสมุนไพรที่นำมาใช้ในความงามอีกด้วย ดังนั้นเป็นอีกต้นไม้อีกต้นที่น่าปลูกเก็บไว้ในบ้าน 6.ต้นกระเทียม กลิ่นของกระเทียมเป็นอาวุธสำคัญทางธรรมชาติที่สามารถไล่ยุงได้เป็นอย่างดี การปลูกกระเทียมก็แสนง่าย เพยงนำแต่หัวกระเทียมไปปักลงดิน เอาฟางคลุมแล้วรดน้ำ เพียงเท่านี้ก็จะสามารถมีต้นกระเทียมเอาไว้ปล่อยกลิ่นไล่ยุงได้แล้วติดตามอ่าน ต้นไม้ไล่ยุงที่ยังมีอีกหลายต้น ในบทความต่อเนื่องตอนที่ 2 นะคะ ต้นไม้แต่งบ้าน ต้นไม้แต่งคอนโด ต้นไม้ฟอกอากาศ
9 อันดับ ต้นคล้า มหามงคล ตอนที่ 2
ในบทความตอนที่ 1 ได้รู้จักคล้ามหามงคล ในลำดับที่ 7- ลำดับที่ 9 กันไปแล้ว บทความนี้มารู้จักกับคล้ามหามงคล อันดับ ที่ 1- อันดับที่ 6 กันว่าจะสวยงามขนาดไหน อันดับที่ 6 คล้าแววมยุรา คล้าแววมยุราเป็นอีกหนึ่งคล้ามงคลที่คนไทยนิยมปลูกไว้ในบ้าน เพราะเวลาที่แตกกอเป็นพุ่มจะดูสวยงามมาก และความพิเศษอีกอย่างของคล้าชนิดนี้คือ ใบจะมีสองสี โดยใบด้านบนจะมีเฉดสีเขียว แต่ด้านล่างจะเป็นเฉดสีแดงเข้ม ลักษณะใบเป็นรูปรีกว้าง ปลายแหลม ขอบเรียบ ด้านบนมีสีเขียวอ่อนลายแต้มรูปรีปลายมน หรือกลมทั้งเล็กและใหญ่ สลับเรียงกันกับสีเขียวเข้ม ขอบใบด้านบนขลิบเขียวเข้ม ใต้ใบขลิบสีเขียวอมเทา หรือสีม่วงแดง และก้านใบก็จะมีสีม่วงแดง ห่อหุ้มกันเป็นชั้น ทำให้ลวดลายของแววมยุรา เหมือนมีกิ่งไม้แทรกตัวอยู่ในใบอีกขั้นหนึ่ง ซึ่งจริงๆแล้วมันคือลวดลาย และจะสังเกตได้ชัดเจน เมื่อใบอ้าออกในยามเช้า และจะหุบในช่วงเย็น อันดับที่ 5 คล้าม้าลาย หรือ ต้นคล้าเสือโคร่ง เป็นคล้าที่จัดอยู่ในกลุ่มไม้พุ่มขนาดเล็ก มีเหง้าอยู่ใต้ดินกระจายออกเป็นพุ่มค่อนข้างแน่น ใบเป็นใบเดี่ยว เรียงเวียนสลับกัน มีลายสีเขียวลายทางขวางตามใบ ปลายใบแหลม โคนใบมนหรือสอบ ขอบใบเป็นคลื่นเล็กน้อย แผ่นใบหนา […]
9 อันดับ ต้นคล้า มหามงคล ตอนที่ 1
บทความต้นไม้ครั้งนี้ เราเอาเรื่องของ 9 อันดับต้นคล้า มหามงคล ที่ช่วยเสริมดวง เรียกทรัพย์ และปกป้องคุ้มครองมาฝากกัน ต้นคล้า เป็นพืชไม้ใบล้มลุก เป็นพืชที่มีความหลากหลาย มากมายหลายสายพันธุ์ และเป็นไม้ใบที่มีลวดลายบนใบเป็นเอกลักษณ์ อีกทั้งมีความสวยงามโดดเด่นและดูมีชีวิตชีวา แตกต่างกันไปแต่ละสายพันธุ์ คนโบราณมีความเชื่อเกี่ยวกับต้นคล้า หรือว่าคนแต่ละประเทศก็มีความเชื่อว่า “คล้า” เป็นต้นไม่มงคล บ้านใดที่ปลูกต้นกล้าจะช่วยคุ้มครองรักษาบ้านนั้นให้มีแต่ความสงบสุข เพราะคำว่า “คล้า” มีความหมายใกล้เคียงกับคำว่า”คุ้ม” ที่แปลว่าความคุ้มครองนั่นเอง นอกจากนั้นยังมีคำพ้องเสียงกับคำว้า “คล้าคลาด” หรือ”แคล้วคลาดปลอดภัย” จากเรื่องร้านนานาประการ นอกจากนั้นยังมีความเชื่ออีกว่า จะทำให้ทุกคนในครอบครัวนั้นรอดพ้นจากเรื่องราวร้ายๆได้อยู่เสมอ ทั้งความทุกข์กาย ทุกข์ใจ เพราะต้นคล้านั้น จะช่วยปกป้องคุ้มครอง นอกจากนั้น “ต้นคล้า” ยังมีคุณสมบัติเป็นไม้ฟอกอากาศ หากนำมาไว้ภายในบ้านนอกจากจะให้ความสวยงามแล้ว ยช่วยฟอกอากาศให้บริสุทธิ์ ลวดลายของใบต้นคล้า ไม่ว่าจะวางไว้ตรงไหนของบ้านก็จะทำให้บ้านมีชีวิตชีวา มีความสดชื่นมากขึ้นกว่าเดิม ทีนี้เราไปดูกันว่า 9 อันดับ คล้ามหามงคลเสริมดวง เรียกทรัพย์ ปกป้องคุ้มครอง แต่ละอันดับมีต้นคล้าสายพันธุ์อะไรบ้างที่ควรนำมาปลูก อันดับที่ 9 คล้าถุงเงิน หรือคล้าใบเงิน ค้าถุงเงิน พื้นใบจะมีสีขาวอมเทา […]
รวมว่านที่นักเลงและนักมวยสมัยก่อนกินเพื่อความคงกระพัน ตอนที่ 1
ครั้งนี้เราจะมาแนะนำ ว่านโบราณที่นักเลงและนักมวยในสมัยโบราณนิยมกินกัน เพราะเชื่อว่าจะช่วยให้มีความคงกระพัน มีว่านอะไรกันบ้างไปติดตามดุกันเลยค่ะ 1.ว่านอ้ายใบ้ ซึ่งปัจจุบันรู้จักกันในชื่อ สาวน้อยประแป้ง ในสมัยก่อนนักเลงและนักมวยเชื่อกันว่า ว่านชนิดนี้จะช่วยหึคงกระพัน ชกต่อยแล้วไม่เกิดแผลแตก โดยจะนำว่ายส่วนลำต้นมาห่อด้วยมะขามเปียก แล้วกลืนลงท้องไป จะทำให้มีอาการชาตามผิวหน้า แขน ขาและคอบวม ลิ้นคับปาก จึงเป็นที่มาของชื่อ “ว่านอ้ายใบ้” เพราะจะพูดไม่ได้ เมื่อถูกมีดฟันจะเกิดรอยช้ำหรือเป็นรอยแดงๆเท่านั้น อีกความเชื่อก็คือ เป็นว่านเสี่ยงทายโชคลาภ มีเสน่ห์เมตตามหานิยม หากปลูกเอาไว้หน้าบ้านจะช่วยให้ค้าขายดี อ้ายใบ หรือสาวน้อยปะแป้งปัจจุบันนิยมปลูกเป็นไม้ประดับ ไม่นิยมนำมากินกันแล้ว เพราะว่าพิษของสาวน้อยประแป้งเมื่อกินเข้าไป จะรู้สึกเจ็บปวด ร้อนที่ลิ้น และเยื่อบุช่องปาก ลิ้นและคอจะบวมพองเป็นตุ่มใส มีปัญหาหารเปล่งเสียง ลิ้นบวมโตคับปาก การสัมผัสน้ำยางทำให้เกิดอาการบวมแดง แม้ว่าอาการพิษที่เกิดจากสาวน้อยปะแป้ง จะพบได้ไม่บ่อยนักแต่ก็มีโอกาส กินพืชต้นนี้เข้าไปโดยรู้เท่าไม่ถึงกาล เพราะฉะนั้นบ้านไหนที่ปลูกเอาไว้ต้องระวังสัตว์เลี้ยงและเด็กอย่าได้เผลอกินเข้าไปนะคะ 2.ว่านคางคก หรือชื่ออื่นที่เรียกกันว่า ว่านมหาอุต ว่านมโนรา บางทีก็เรียกเป็นอุตพิด ว่านคางคกเป็นไม้ล้มลุก หัวว่านมีลักษณะผิวขรุขระเหมือนหนังคางคก ลักษณะกลม มีขนาดเล็ก ดูราวกับคางคกหมอบ ก้านของใบมีสีเขียว กลมเรียว บริเวณปลายด้านบนเป็นร่อง ก้านใบยาว แทงออกมาจากหัวใต้ดิน ใบเป็นรูปหัวใจ […]
สุดยอด “ไมยราบ” หญ้าหนามตำเท้า ถูกตีตราว่าเป็นวัชพืชไร้ค่า
บทความครั้งนี้ นำความรู้เกี่ยวกับ “ ไมยราบ” หญ้าหนามตำเท้าที่ถูกตีตราว่าเป็นวัชพืชไร้ค่า แต่ความจริงมีประโยชน์มากมายจนคุณต้องทึ่งเชียวล่ะ ไปดูกันค่ะว่าไมยราบมีสรรคุณอะไรบ้าง ไมยราบเป็นต้นไม้ที่มีลำตันผอมเรียว แตกกิ่งก้านสาขาจำนวนมาก ตามลำต้นมีหนามประปรายจนถึงหนาแน่น ซึ่งลำต้นอาจยาวได้ถึง 1.5 เมตร หรือ 5 ฟุต โดยลำต้นของไมยราบจะตั้งตรงเมื่อยังเล็ก แต่จะเริ่มเลื้อยและชอนไชไปตามพื้นผิวต่างๆ โดยจะชอบเกาะอยู่ตามพื้น ตามที่ต่ำ และเกาะอยู่อย่างหลวมๆ ใบของต้นไมยราบเป็นลักษณะใบประกอบขึ้นอยู่ตามต้น ซึ่งไมยราบเป็นที่รู้จักในคุณสมบัติพิเศษของมัน ในเรื่องการเคลื่อนไหวอย่างฉับพลันของพืช เช่นเดียวกับพืชในหลายๆสายพันธุ์ มันได้รับความสามารถในการตอบสนองต่อแสงในการเปลี่ยนแปลงลักษณะใบ หรือหุบใบ โดยมันสามารถหุบใบในตอนกลางคืน และบานในตอนกลางวัน ปัจจุบันได้การนำสมุนไพรไมยราบในการศึกษาวิจัย เพื่อพัฒนาต่อยอดนำมาใช้เป็นยารักษาโรคเบาหวาน โดยการงานวิจัยจึงเป็นการตอกย้ำภูมิปัญญาแพทย์แผนไทย ในสรรพคุณของไมยราบ และยังได้มีการยืนยันด้วยว่า การดื่มชาสมุนไพรไมยราบต่างน้ำทุกวัน ไม่มีผลข้างเคียงหรือพิษใดๆเลย แม้กระทั่งในสัตว์ทดลองก็ไม่เกิดอาการผิดปกติแต่อย่างใด นอกจากนี้ไมยราบยังมีสรรพคุณอื่นๆอีกมากมาย โดยส่วนที่นำมาใช้ได้แก่ ต้น ราก ใบ และทุกส่วนของต้น สรรพคุณของไมยราบคือ 1.ช่วยบำรุงร่างกาย 2.ต้นแห้งนำมาต้นกับน้ำกินจะช่วยแก้อาการอ่อนเพลียได้ 3.ไมยราบทั้งต้นนำมาสับเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วนำมาตากจนแห้งสนิท แล้วนำมาต้มกินต่างน้ำจะสามารถรักษาโรคกษัย หรือโรคสังขารเสื่อม ซูบซีด ผอมแห้งแรงน้อย เบื่ออาหารง่าย มีอาการปวดเมื่อยตามตัว โลหิตจาง […]
ต้นไม้ห้ามปลูกในบ้าน ต้นไม้มีพิษ ไม่ควรปลูก ไม่มงคล อย่าปลูกไว้ในบ้าน ตอนที่ 2
มาต่อกันที่ต้นไม้อีก 3 ชนิดที่ห้ามปลูกในบ้าน เพราะเป็นต้นไม้มีพิษ ในบทความตอนที่ 2 กันเลยนะคะ อันดับที่ 3 ต้นตำแย เป็นพืชล้มลุกขนาดเล็กไม่ผลัดใบ ตำต้นมีลักษณะตั้งตรง ทุกส่วนของต้นมีขนพิษ ไม่ควรจับต้องเล่นเป็นอันขาด เพราะส่วนที่ทำให้เกิดอาการคันอย่างรุนแรงคือ ขนทุกส่วนบนต้นของมัน ไม่ว่าจะเป็นขนที่ใบ ขนที่ต้น หรือที่ช่อดอกก็ไม่เว้น โดยใบของต้นตำแยจะเป็นรูปหัวใจ ปลายใบแหลม โดนใบป้าน หรือหยักเว้า ขอบใบหยักเป็นฟันเลื่อย ดอกของตำแยจะออกเป็นช่อที่ปลายกิ่งห้อย มีดอกย่อยจำนวนมากเป็นสีเขียว และมีสีม่วงเมื่อดอกบาน ต้นตำแย มีชื่อเรียกตามแต่ละท้องถิ่นที่แตกต่างกัน เช่น ต้นช้างร้อง ตำแยตัวเมีย ตะลังตังไก่ หากใครเผลอไปสัมผัสขนพิษจากทุกส่วนของต้นจะทำให้เกิดอาการคันมาก ผิวหนังจะปวดแสบปวดร้อน เป็นผื่นบวมแดง และถ้าถูกบริเวณผิวหนังที่อ่อนนุ่มก็จะมีอาการรุนแรงมากขึ้น วิธีแก้พิษเบื้องต้น ให้เอาขนจากผิวหนังออกให้หมดก่อน โดยใช้ข้าวเหนียวมากลิ้งหลายๆครั้งบริเวณที่ถูกขนสัมผัสออก เหมือนกับการแก้อาการขนพิษของหมามุ่ย ซึ่งอาจใช้เทียนลนไฟให้อ่อนนุ่มแล้วเอามากลึ้งบริเวณที่ถูกขนก็ได้เช่นนั้น จากนั้นทาโลชั่นคารามายและรับประทานยาแก้แพ้ แต่ถ้าอาการไม่ดีขึ้นให้รีบไปพบแพทย์โดยด่วน อันดับที่ 2 ต้นสามแก้ว หรือเรียกในชื่ออื่นว่า ต้นช้างร้อง ซึ่งชื่อไปซ้ำกับต้นตำแย แต่หน้าตาของมันจะไม่เหมือนกัน โดยใบของเค้าจะมีลักษณะที่ดูเป็นมิตรกว่าต้นช้างร้องที่เป็นต้นตำแย แต่พิษของต้นสามแก้วก็ไม่ได้น้อยไปกว่าต้นตำแยเลย ต้นสามแก้วเป็นต้นไม้ยืนต้น มีตั้งแต่ต้นขนาดเล็กจนสูงท่วมหัว […]
รวมว่านที่นักเลงและนักมวยสมัยก่อนกินเพื่อความคงกระพัน ตอนที่ 2
บทความตอนที่ 2 นี้ มารู้จักกับว่าอีก 3 ชนิดที่นักเลงและนักมวยสมัยโบราณมีความเชื่อว่าจะช่วยให้คงกระพันกันต่อเลยนะคะ 1.ว่านกลิ้งกลางดง หรือ ว่านพระฉิม ตาเฒ่าหนังหยาบ หรืออีรุมปุมเป้า และยังมีอีกหลายชื่อเรียกตามแต่ละท้องถิ่น กลิ้งกลางดง เป็นไม้เลื้อยล้มลุก มีหัวอยู่ใต้ดิน จำพวกเดียวกับกลอย อายุเพียง 1 ปี ต้นและกิ่งก้านมีน้ำยางสีแดง มีหัวขนาดเล็กที่ซอกใบ หัวมีปุ่มปมที่ผิว สีก้านนอกมีสีน้ำตาลปนเทาซีด เมื่อผ่าออกเนื้อจะเป็นสีเหลืองส้ม ผู้เฒ่าผู้แก่กล่าวไว้ว่า หากใครเข้าป่าแล้วเผลอกินเข้าไปจะเกิดอาการมึนเมาจนต้องนอนกลิ้งอยู่กลางป่ากลางดง จึงเป็นที่มาของชื่อ “กลิ้งกลางดง” ความเชื่อของคนสมัยก่อนเชื่อว่า ว่านนี้ถ้าปลูกทำเป็นซุ้มหน้าบ้านให้ว่านเลื้อยเกาะจะทำให้ร่วมเย็น เป็นเมตตามหามงคลเป็นสิริมงคลแก่บ้านและร้านค้า หัวว่านนิยมนำมาผสมทำพระเครื่อง หรือนำหัวพกติดตัวไปไหนมาไหน เพื่อป้องกันเหตุร้ายต่างๆ แคล้วคลาดจากภัยทั้งปวง ก่อนพกพาให้เสกด้วยคาถา นะโมพุทธายะ 7 จบ จะเป็นสิริมงคล อุดมด้วยโภคทรัพย์ และคงกระพันชาตรี หรือหากนำว่านวางไว้ที่หัวเตียงจะป้องกันสิ่งไม่ดีมากระทำได้ นักเลงในสมัยก่อนจะนำไปแช่น้ำมันสำหรับสักยันต์ เพื่อเสริมทางคงกระพันชาตรีได้ หมอยาบางพื้นที่ ใช้หัวสดกับก้านใบของ ว่านกลิ้งกลางดง กินร่วมกับเหล้าขาว 40 ดีดรี จะทำให้ผิวหนังเกิดอาการชา ถูกเฆี่ยนหรือตีอย่างไรก็ไม่เจ็บ แต่เมื่อหมดฤทธิ์ยาแล้วก็จะเกิดอาการเจ็บในภายหลัง ซึ่งนักลงหัวไม้ในสมัยก่อน […]