8 เห็ดประหลาดของโลก ตอนที่ 2

8 เห็ดประหลาดของโลก ตอนที่ 2

บทความต่อเนื่องของ “8 เห็ดประหลาดของโลก ตอนที่ 2” ครั้งนี้จะพาคุณไปรู้จักกับเห็ดประหลาดอีก 4 ชนิด จะแปลกประหลาดหรือมีน่าตาที่สวยงามเหมือนเห็ดประหลาด 4 ชนิดแรกแค่ไหนไปตามดูกันเลยค่ะ

5.เห็ดกระสือ Fungi with flare 

เห็ดกระสิบเป็นเห็ดที่เรืองแสงได้ในเวลากลางคืน เกิดกระจายเป็นกลุ่มใกล้ๆกันบนขอนไม้เนื้อแข็ง โดยเห็ดเหล่านี้สามารถเรืองแสงได้เพราะมีสาร ไรโบรฟาวิน ที่เปลี่ยนพลังงานทางชีวะเคมีให้กลายเป็นพลังงานแสง ซึ่งอาจให้แสงเป็นสีเขียว สีขาว หรือสีน้ำเงิน หรืออาจเรืองแสงเฉพาะส่วนใดส่วนหนึ่งเช่น เรืองแสงที่ครีบเวลาที่บานเต็มที่เท่านั้น หรือเรืองแสงทุกส่วนยกเว้นสปอร์ นอกจากนี้ยังมีเห็ดเรืองแสงอีกหลายชนิดที่กำลังรอการค้นพบ ล่าสุดมีการพบพันธุ์ใหม่ของเห็ดเหล่านี้ที่ป่าฝนในบราซิล และส่วนมากเห็ดเรืองแสงเหล่านี้มักจะเป็นเห็ดที่มีพิษ

6.เห็ดรังนก Bird’s Nest Fungi 

เห็ดรังนก หรือเห็ดรังนกกระจอกจะพบได้ในป่าเบญจพรรณ ป่าดิบแล้ง เกิดบนขอนไม้ผุ เกิดดอกเดียวแต่อยู่เป็นกลุ่ม ลักษณะดอกเห็ดคล้ายถ้วยหรือรังนก มีไข่เล็กๆอยู่ข้างใน ซึ่งเป็นโครงสร้างของเห็ด โดยไข่มีรูปทรงกลมสีเทา ด้านล่างของถ้วยเป็นทรงสอบแคบลงไปเป็นก้านดอกหรือก้นถ้วย ผิวด้านนอกมีสีน้ำตาลอ่อนที่ปกคลุมไปด้วยเส้นขนหยาบๆสั้นๆ ผิวด้านในมีเทาอมน้ำตาล หรือเป็นสีดำ มีเส้นลายยาวนูนขนานกันจากขอบปากถ้วยลงไปที่โคนก้านดอก ซึ่งเห็ดชนิดนี้สามารถกินได้

7.เห็ดแสงอาทิตย์ Ascroc rubra 

 เห็ดแสงอาทิตย์ หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่าเห็ดดอกไม้ทะเล เห็ดชนิดนี้มีก้านดอกเห็ดค่อนข้างสั้น ดอกเห็ดมีเมือกคล้ายวุ้นบางๆเคลือบบนผิวและมีแขนเรียวยาวที่มักอยู่เป็นคู่คล้ายดาวทะเล หรือดอกไม้ทะเล ที่ยื่นยาวแผ่รัศมีออกไปโดยรอบ 1-2 เท่าของความกว้างของดอกเห็ด ดอกเห็ดด้านล่างจะเป็นสีขาว ด้านบนเป็นสีชมพู บริเวณกลางดอกที่เป็นที่เก็บสปอร์จะเป็นสีแดงเข้ม พบได้ทั่วไปในป่าเขตร้อน ของออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ศรีลังกา สุมาตรา ชวา แทสเมเนีย แม็กซิโก และอเมริกาใต้ พบเฉพาะใยพื้นดินของป่าดิบ ที่มีความชื้นสูง ซึ่งในประเทศไทยเป็นเห็ดหายาก ซึ่งได้พบที่เขาใหญ่เมื่อไม่นานมานี้เอง

8.เห็ดซิก้าของปีศาจ The Devil’s Cigar

 เห็ดชนิดนี้หายากมาก พบเพียง 3 แห่งในโลก มีการรายงานการพบเห็นชนิดนี้ครั้งแรกเมื่อปี 1893 ในรัฐเท็กซัสและอเมริกา แต่ต่อมามีการค้นพบอีก 2 เมืองในประเทศญี่ปุ่น จะเกิดในช่วงระหว่างฤดูใบไม้ร่วงถึงฤดูหนาว รูปร่างของเห็ดชนิดนี้จะตูมคล้ายซิก้าสีน้ำตาล หรือสีดำมืด แต่เมื่อแก่แล้วจะแยกตัวออกเป็นกลีบที่มีลักษณะเหมือนรูปดาว หรือกลีบดอกไม้บาน 4-7 แฉก ซึ่งนักวิทยาศาสตร์มีข้อสงสัยว่าทำไมถึงพบเห็นเห็ดชนิดนี้แค่ 3 แห่งในโลก โดยแต่ละที่ก็ห่างไกลกันถึงครึ่งโลก 

เป็นอย่างไรบ้างคะ สนุกและเร้าใจกับความแปลกประหลาดและสวยงามตามธรรมชาติของเห็ดประหลาดทั้ง 8 ชนิดใช่ไหมคะ ? เอาไว้ในครั้งต่อๆไปเราจะนำบทความแปลกๆเกี่ยวกับต้นไม้ในโลกนี้มาฝากคุณอีก อย่าลืมติดตามอ่านกันนะคะ