ต้นระฆังแก้ว หรือที่มีชื่อเรียกอื่นๆ ว่า ทิงเกอร์เบล หรือ ลิลลี่แห่งขุนเขา เป็นต้นไม้เล็กๆ น่ารัก และออกดอกดกสวยงาม มักนิยมนำมาใช้ประดับในงานแต่งงาน และงานพิธีอื่นๆ มีหลายสายพันธุ์ ส่วนดอกก็มีหลายสีตามสายพันธุ์ แต่ที่เรามักจะเห็นกันบ่อยๆ ก็คือสีขาว พบได้ทั่วไปในป่าสน ป่าผลัดใบ หรือป่าเบญจพรรณ ในเกือบทุกประเทศของทวีปยุโรป แต่ก็สามารถปลูกได้ในประเทศเราด้วยเช่นกัน
ลักษณะทั่วไป
ต้นระฆังแก้ว นับเป็นกล้วยไม้ดินชนิดหนึ่ง ลำต้นสูงประมาณ 30 เซนติเมตร มีใบเป็นวงรีรูปหอกกว้าง สีเขียวสด ออกดอกเป็นข่อขนาดเล็กจำนวนมาก รูปร่างคล้ายกระดิ่ง มีเกสรสั้นๆ อยู่ภายใน และมีกลิ่นหอม มีผลกลมขนาดเล็ก ซึ่งมีเมล็ดอยู่ภายในผล สามารถนำไปปลูกได้
การปลูกและดูแล
การปลูก
ต้นระฆังแก้ว สามารถปลูกด้วยการเพาะเมล็ด และการใช้เหง้า ดินที่เหมาะสำหรับการปลูกคือ ดินร่วนชื้นที่มีสารอาหารอุดมสมบูรณ์ ซึ่งหากมีสภาพเป็นกรดเล็กน้อย (pH 5) ก็จะยิ่งดีมาก
วิธีปลูกโดยการเพาะเมล็ด จะต้องควบคุมอุณหภูมิให้มีความเย็นประมาณเดียวกับช่องแช่ผักในตู้เย็น จึงนิยมเพาะกันในตู้เย็น โดยใช้ผ้าหรือกระดาษชุบน้ำครึ่งแผ่น แล้ววางเมล็ดไว้ด้านใน จากนั้นก็นำไปใส่ถุงซิปล็อค แล้วเก็บในตู้เย็น กระทั่งเมื่อเมล็ดเริ่มแตกตัว จึงนำไปปลูกได้ หากเปิดดูแล้วเมล็ดแห้ง ก็ให้ฉีดน้ำให้ชุ่มชื้นอยู่ตลอด แต่ห้ามแฉะ
วิธีการปลูกโดยใช้เหง้า ให้ขุดหลุมลึกประมาณ 3 เซนติเมตร แล้ววางเหง้าลงในหลุม กลบดินแล้วคลุมด้วยใบไม้แห้งอีกทีหนึ่ง ส่วนระยะห่างของการปลูก ให้แต่ละหลุมห่างกันประมาณ 20 เซนติเมตร
การดูแล
ต้นระฆังแก้ว เป็นพืชที่ดูแลไม่ยาก ควรรดน้ำเป็นประจำอย่าให้ดินแห้ง และระวังอย่าให้ชื้นมากเกินไปจนแฉะ ในช่วงฤดูร้อนที่อากาศแห้ง ก็ควรรดน้ำให้บ่อยขึ้นกว่าปกติ ชอบแสงแดดรำไร จึงนิยมปลูกไว้ใต้ร่มเงาของต้นไม้ใหญ่ แต่ก็ควรต้องให้มีแดดส่องถึงด้วย ไม่เช่นนั้นจะออกดอกน้อย และควรหลีกเลี่ยงการปลูกกลางแจ้งที่แสงแดดแรงเกินไป เพราะจะส่งผลต่อการเจริญเติบโตได้เหมือนกัน รวมถึงยังเป็นต้นไม้ที่ไม่ชอบลมแรงด้วย หากจะปลูกกลางแจ้งจริงๆ ถ้าไม่ปลูกใต้ต้นไม้อื่น ก็ควรปลูกไว้ตามรั้วกำแพงบ้าน เพื่อจะได้ช่วยปกป้องลมแรงๆ ได้ นอกจากนี้ก็ควรกำจัดวัชพืชออกบ่อยๆ อย่าให้มีการแย่งอาหารกัน
ใครที่ชื่นชอบต้นไม้พันธุ์เล็ก เลี้ยงง่าย และออกดอกดก ก็อย่าลืมหา ต้นระฆังแก้ว มาลองปลูกกันดูได้นะคะ มือใหม่ก็เลี้ยงได้ ไม่ยากเลย