4 ว่านดอกทองไทยที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสุดยอดมหาเสน่ห์ของดีหายาก ตอนที่ 2

 4 ว่านดอกทองไทยที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสุดยอดมหาเสน่ห์ของดีหายาก ตอนที่ 2

ในบทความตอนที่ 1 ได้กล่าวถึงถึงว่านดอกทอง ไปแล้ว 2 สายพันธุ์ บทความต่อเนื่องตอนนี้ จึงจะพาไปรู้จักว่านดอกทองที่เป็นที่นิยมอีก 2 สายพันธุ์ ไปดูกันต่อมีมีสายพันธุ์อะไรอีกบ้างที่นิยมกัน

3.ว่านดอกทองมหาอุดม 

มีลักษณะหัวเป็นแง่งคล้ายหัวกระชาย มีรากฝอยจำนวนมากคล้ายรากหญ้าคา ต้นและใบคล้ายต้นขมิ้นแต่มีขนาดเล็กกว่า ร่องกลางใบมีขีดสีแดง ยาวตั้งแต่โคนจนไปถึงปลายใบ พื้นใบมีเขียวอ่อน มีดอกแทงขึ้นมาข้างๆลำต้น กลิ่นของดอกจะทำให้มีความรู้สึกทางเพศ เมื่อมีดอกให้รีบเก็บก่อนจะบาน แล้วนำไปใส่ในน้ำมันจัน ถือเป็นยอดเสน่ห์เมตตามหานิยมชั้นเยี่ยม ให้เลกคาถา นะโม พุทธายะ  7 ครั้งก่อนใช้จะได้ผลวิเศษณ์ยิ่งนัก

4.ดอกทองเขมร  หรือว่านมหาเสน่ห์ 

ว่านชนิดนี้เป็นว่านที่หาง่าย ออดอกได้ทั้งปี สำหรับสรรพคุณของว่านดอกทอง หรือว่านราคาทั้งหมดนั้น ตามตำราโบราณระบุไว้ว่าเป็นว่านที่ทำให้เกิดพลังทางเพศอย่างรนแรง โดยเฉพาะผู้หญิง ถ้านำหัว ใบ หรือต้นของว่านดอกทองไปส่ในโอ่งน้ำ หรือบ่อน้ำ และกินเข้าไป จะสร้างให้เกิดความรู้สึกทางเพศที่รุนแรงมาก หรือเพียงแค่ได้กลิ่นดอกโชยมา ก็ชวนให้หลงใหลในโลกีย์ได้แล้ว หนุ่มๆสมัยก่อนจึงนิยมเก็บดอกของว่านดอกทองสะสมเอาไว้ เพื่อไปหุงกับน้ำมันจัน หรือบดรวมกับสีผึ้งเอาไว้ทาปาก เชื่อกันว่าหากหญิงใดได้กลิ่น หรือได้ต่อคารมด้วย จะทำให้เกิดใจอ่อนและคล้อยตามง่าย แต่การเก็บดอกดอกนิยมเก็บก่อนที่ดอกจะบาน

และนอกจากความเชื่อที่ว่าว่านดอกดอกจะช่วยเสริมพลังทางเพศแล้ว ว่านดอกทองสามารถสร้างเมตตามหานิยมได้ด้วย ถ้าปลูกเอาไว้ที่บ้านก็จะเป็นสิริมงคลแก่บ้านเรือน และผู้อยู่อาศัย ใครเห็นใครรัก หากปลูกเอาไว้ที่ร้านค้า จะทำให้ลูกค้าหลั่งไหลเข้ามาอุดหนุนขายดีเป็นเทน้ำเทท่า ทำมาหากินคล่อง

สำหรับว่านที่ให้ผลทางเสน่ห์เมตตามหานิยมนั้น ให้ทำการปลูกในวันจันทร์ข้างขึ้น เพื่อความขลังของว่านและขณะปลุกให้หันหน้าไปทางทิศตะวันออกหรือทิศเหนือ และเสกน้ำรด ด้วยคาถา มะโมพุทธายะ 3 จบ ก่อนรดน้ำ

ความเชื่อดังกล่าวเป็นข้อมูลความเชื่อส่วนบุคคล ควรใช้วิจารณญาณในความเชื่อ และในความจริงแล้ว หากเรา เป็นผู้ที่คิดดี พูดดี ทำดี ก็ไม่ต้องไปวางหาสางมงคลชนิดไหน เพราะความดีทั้งกาย วาจาใจ ย่อมส่งผลให้ผู้ปฏิบัติได้รับความเมตตาจากบุคคลรอบข้างได้อยู่แล้ว